โลกส่วนแรกของคนเราทุกคนคือครอบครัว หากเด็กเกิดมาแล้วถูกพ่อแม่ทิ้ง โลกของเขาจะหายไปเลย เพราะว่าพ่อแม่คือโลกของเด็ก เขาจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่โดดเดี่ยว ท่ามกลางอะไรมากมายที่เขาไม่รู้ไม่เข้าใจ การมีปัญหาในครอบครัวก็เหมือนโลกแตก โลกตรงนั้นได้พังไปแล้วสำหรับเขา เช่นเดียวกับผู้สูงอายุที่ถูกลูกหลานทอดทิ้ง โลกของเขาก็ได้พังทลายลงไปด้วย
คนจำนวนไม่น้อยมีปัญหามากในการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น ภายใต้นิยามของคำว่า เพื่อน จนนำไปสู่การมีเพื่อนในโลกเสมือนขึ้น ซึ่งเป็นเพื่อนที่เราอาจไม่เคยรู้จักในชีวิตจริง แต่บังเอิญว่ามีอะไรที่คล้ายกัน หรือคุยกันได้โดยไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์อื่นๆต่อกัน เช่น คุยกันหน้าจอทุกวัน แต่ไม่ต้องไปกินข้าว ดูหนัง เลือกคุยได้เป็นเรื่องๆ ไม่ต้องคุยกันตลอดเวลาที่เขาอยากติดต่อเรา เราเลือกคุยก็ต่อเมื่อเราอยากจะคุย เขาติดต่อมาวันนี้ เราอาจจะตอบไปพรุ่งนี้ก็ได้สำหรับเพื่อนในโลกเสมือน แต่ถ้าเราทำอย่างนี้กับเพื่อนสนิทหรือเพื่อนในชีวิตจริง เขาอาจไม่พอใจจนเลิกคบเราก็ได้ เช่น โทรมาวันนี้อีกสามวันค่อยโทรกลับไป อาจทำให้เพื่อนน้อยใจ คลางแคลงในความสัมพันธ์ หรือในอีกแง่หนึ่ง เราอาจอยากเจอกับเพื่อนแต่เราขี้เกียจแต่งตัว เราอาจนุ่งผ้าขาวม้าคุยกับเพื่อนในเฟสบุ๊คก็ได้ แต่ถ้าเรานุ่งผ้าขาวม้าไปกินข้าวกับเพื่อนที่ทองหล่อ เพื่อนอาจจะเลิกคบเราหรือทำเป็นไม่รู้จักเรา อาจจะโกรธหาว่าเราไม่ให้เกียรติ หรืออาจคิดว่าเราบ้า มิตรภาพเป็นสิ่งที่ต้องบริหารจัดการ และที่น่าเศร้าก็คือ คนมากมายก็ไม่เคยรู้เลยว่า ควรจะทำอย่างไรให้คนกลุ่มที่เรียกว่าเพื่อน หรืออยากเป็นเพื่อนด้วย มายอมรับเรา ในรูปแบบที่เราอยากให้เขายอมรับ
ปัญหามาตรฐานของคนโสดคือ ทำอย่างไรให้คนที่เราชอบหันมาสนใจเรา ทำอย่างไรให้เรากลายเป็นที่รักของคนที่เราปรารถนาจะเป็นคู่ด้วย ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก อันเป็นที่มาของวรรณกรรม ของบทเพลง และอะไรต่างๆ ในโลกของศิลปะ ซึ่งล้วนเกิดจากความไม่สมหวังในความรักทั้งนั้น นั่นแสดงว่าความไม่สมหวังย่อมจะมีมากกว่าความสมหวังในเรื่องของความรัก การไม่ถูกยอมรับย่อมมีมากกว่าการถูกยอมรับ และสำหรับคนที่แต่งงานกัน ได้เป็นคู่ครองกันแล้ว ก็ยังคงสงสัยต่อไปว่าจะต้องทำอย่างไร จึงจะเป็นที่รัก เป็นที่ต้องการ หรือว่าอยู่ด้วยกันกับคู่ครองของเราอย่างมีความสุขไปจนแก่เฒ่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องของโชคชะตา แต่เป็นวิทยาศาสตร์ เป็นเรื่องของเหตุผล เป็นเรื่องของการกระทำ การที่คนเราฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำอะไรไปตามอารมณ์โดยปราศจากการคำนึงถึงเหตุผลหรือเงื่อนไขความต้องการของฝ่ายตรงข้าม ความสัมพันธ์ที่เริ่มขึ้นแล้ว ก็อาจแตกสลายลงได้ โอกาสที่คนสองคนจะกระทบกระทั่งกันเป็นไปได้สูง แต่ถ้าใช้สติ ใช้วิชาความรู้ในการบริหารจัดการความสัมพันธ์นี้ คนที่ปรารถนาความรัก หรือคนที่ต้องการรักษาความรักเอาไว้ด้วยกัน ก็จะอยู่ด้วยกันได้กันง่ายขึ้น สบายขึ้นและอยู่ได้อย่างมีความสุขยาวนานขึ้น
เพราะความสำเร็จในโลกของการทำงาน คือตัวชี้วัดความสำเร็จของชีวิตตามทัศนะของคนส่วนใหญ่ จึงไม่มีใครอยากล้มเหลวหรือถูกปฏิเสธในหน้าที่การงาน แต่เพราะในช่วงชีวิตของคนเรา ระยะเวลาการทำงานนั้นเป็นสัดส่วนใหญ่ของเวลาทั้งหมด โอกาสที่เราจะทำอะไรต่อมิอะไรในช่วงของการทำงานจึงมีมาก และนั่นหมายถึงโอกาสที่จะพลาดหรือล้มเหลวก็ย่อมมีมากขึ้นด้วยเป็นเงาตามตัว ความล้มเหลวเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ความล้มเหลวก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เพราะคนที่พลาดบ่อยไม่ได้แปลว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ ในทางกลับกัน คนที่ทำมากกว่า ย่อมมีโอกาสพลาดบ่อยกว่าคนที่ทำน้อย และคนที่ทำมากกว่า ตั้งใจมากกว่า ลงแรงมากกว่า ย่อมมีโอกาสที่จะได้พบกับความสำเร็จมากกว่า ไม่มีสูตรที่ตายตัวสำหรับความสำเร็จในการทำงานหรือการสมัครเข้าทำงาน วิธีที่ดีที่สุดของแต่ละคนจึงไม่จำเป็นต้องเหมือนกันเสมอไป