
เมื่อสัปดาห์ก่อนมีน้องจากนิตยสารมาถ่ายคอลัมน์ที่บ้าน ในฐานะที่เราเป็นคนถ่ายภาพเหมือนกัน เข้าใจหัวอกช่างภาพดีว่า เขามาทำงานของเขา เราเป็นแค่ object ในภาพนั้น ภาพที่ถ่ายควรมาจากมุมมองของช่างภาพ ไม่ใช่จากตัวแบบ หรือ object ในภาพมาคอยเจ้ากี้เจ้าการ เที่ยวแนะนำสั่งสอนเขาว่า ต้องเอาอย่างนั้นอย่างนี้ จึงพยายามอย่างที่สุด ที่จะไม่ออกความเห็นใดๆ และไม่เคยขอดูภาพที่เขามาถ่าย เพื่อร่วมตัดสินใจเลย ยกเว้นว่าเขาจะขอความเห็นจริงๆ
วันนั้นฟ้าออกจะหม่น แดดไม่มี ฝนทำท่าจะตก แสงแบบนี้ถ้าเป็นงานของตัวเองดิฉันคงเก็บกล้องกลับเลย เอาไว้ถ่ายอีกทีวันมีแดด ในขณะที่น้องช่างภาพดูครึ้มใจ ถ่ายอย่างเพลิดเพลิน ฉีกกฎป้าๆของดิฉันกระจุย ด้วยการถ่ายแบบไม่มีแสง แถมยังอุตส่าห์ถ่ายย้อนทิศของแสงซึ่งเหลือเพียงนิดหน่อยบนท้องฟ้าอีกด้วย
ดิฉันก็พอรู้ว่า เป็นวัยรุ่นมันต้องย้อนแสง และเตือนตัวเองอีกทีว่า นี่มันงานของเขา เราไม่ได้จ้างเขามาถ่าย อย่าได้อ้าปากแสดงความป้าออกไปเป็นอันขาด
แต่กระนั้นก็ยังเผลอหลุดความเห็นไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อช่างภาพสาวน้อยน่ารักถ่ายบ้านเสร็จแล้ว ถามว่า “จะขอถ่ายพอร์เทรตด้วย เอามุมไหนดีพี่”
ด้วยช่องว่างระหว่างวัย ดิฉันตอบโดยไม่รั้งรอ “งั้นถ่ายจากทิศตะวันออกละกัน เพราะเป็นช่วงเช้า พอมีแสงเข้าทางนี้ คงได้คอนทราสต์บ้าง”
น้องช่างภาพยิ้มอ่อน ไม่พูดอะไร แสดงว่าเธอไม่เอา ท้ายที่สุดพากันมาถ่ายในห้องทำงาน ที่สายตาคนแก่อย่างดิฉันมองว่ามันออกจะมืดๆ ถ่ายออกมาก็ไม่มีแสงมีเงา ดูหม่นๆมัวๆ เก๋ดีอยู่หรอก แต่ขัดใจผู้สูงอายุยิ่งนัก ทั้งที่รู้ว่า หนังสือเขาเป็นสีแนว kinfolk ต้องคุมโทนให้นุ่มนวล ชิคๆ คูลๆ แบบที่เขาฮิตๆกันเดี๋ยวนี้ ดูแล้วสงบ สโลว์ ไม่แจ๋นจัดจ้าน
พอถ่ายเสร็จน้องบอก พี่จะดูไหมคะ ชอบรูปไหน บอกน้องว่า ไม่เป็นไร เอาที่น้องสบายใจเลยค่ะ พี่ให้เกียรติคนทำงาน แต่น้องก็อุตส่าห์เอามาให้ช่วยดู เลยต้องดู
ปรากฏว่า รูปออกมาสวยทีเดียว แต่เป็นสไตล์ที่เราคงบังคับตัวเองให้ถ่ายออกมาแบบนั้นไม่ได้ ต่อให้รู้ว่าเทคนิคคืออะไรก็เถอะ เพราะนอกจากจะเป็นรสนิยมส่วนตัว ความแก่ยังเรียกร้องให้เราถ่ายรูปออกมาคมๆชัดๆ สีสดๆแปร๋นๆ เช่นเดียวกับตอนนี้ที่ไม่รังเกียจไฟนีออนสีขาว เพราะมันเห็นอะไรชัดดี ผิดกับสมัยสาวๆ กลับมาจากเมืองนอกใหม่ๆ เจอไฟนีออนถึงกับร้องยี้ ยิ่งแสงไดเรคไลท์นี่ฆ่ากันเลยดีกว่า มาบัดนี้ ยิ่งสว่างยิ่งชัด…ยิ่งสบายใจ
นานมาแล้ว ตอนที่ไม่รู้ว่าสายตาเสื่อม เคยหงุดหงิดกับช่างภาพในกองบรรณาธิการ หวิดจะงับหัวกัน เพราะนึกว่าเขาถ่ายรูปมาไม่คมชัด จนเอะใจไปตรวจสายตา จึงแทบจะเอาหัวโขกพื้นขอขมาช่างภาพผู้น่าสงสาร
โชคดีว่าช่างภาพก็แก่ด้วย จึงเข้าใจ และให้อภัยด้วยเสียงหัวเราะ ทุกวันนี้จึงยังกอดคอทำงานสไตล์แก่ๆ ด้วยกันต่อไปได้ แบบไม่ย้อนแสงนะ เพราะเราแก่แล้ว หมดแรงจะย้อนทวนกระแสใดๆ แดดลมมาทางไหน ก็เพียงยอมรับและผ่อนปรนกันไปตามนั้น
สิทธิในการย้อนแสงหรือย้อนแย้งอะไร ขอยกให้คนหนุ่มสาว สำหรับป้าขอปล่อยชีวิตที่เหลือไปตามแดดลม แค่นี้พอใจแล้ว