สมรภูมิผีเสื้อ

สมรภูมิผีเสื้อ

ช่วงเวลาดีๆในสวน คือความสุขของคนปลูกต้นไม้

ดิฉันชอบสีเขียวอ่อนของยอดไม้ที่แตกใบใหม่ เพราะเป็นสีแห่งชีวิต ความหวัง กำลังใจ การเริ่มต้นใหม่

ดิฉันชอบสีเขียวเข้มของใบไม้แก่ ที่ดกหนาให้ร่มเงา เพราะเป็นสีของความอยู่รอด เป็นสีของชีวิตที่เปี่ยมด้วยประสบการณ์ ที่ผ่านการต่อสู้ อดทนกับสารพัดสิ่งในวันเวลา 

เพื่อนฝูงเป็นห่วง ว่าดิฉันจะกลายเป็นป้าเฉื่อยๆ ที่ไม่ค่อยออกไปไหน วันๆก็ทำงานที่บ้าน นัดลูกค้า ประชุมอะไรๆก็ที่บ้าน เดี๋ยวก็รดน้ำต้นไม้ พรวนดิน เดี๋ยวก็จับหนอนไล่แมลง

แต่ละคนที่คิดว่า ดิฉันเป็นคนว่างๆ ก็จะมาชวนดิฉันไปทำโน่น นี่ นั่น บ้างก็ชวนไปเข้าสมาคมเพื่อร่วมสร้างสาธารณกุศล บ้างก็ชวนไปทำงาน เป็นที่ปรึกษาเรื่องนั้นเรื่องนี้ ชวนไปสอนหนังสือ เป็นกรรมการอะไรต่อมิอะไร ด้วยความหวังดี กลัวดิฉันจะเหงา ซึมเศร้า จนนั่งทึ้งผมตัวเอง

ดิฉันจึงต้องชี้แจงว่า ที่เห็นผมบางลงนั้น ไม่ได้เป็นเพราะว่างเลยนั่งถอนผมหงอกเล่น แต่เป็นเพราะอายุมาก ผมมันก็ร่วงไปเองตามธรรมชาต

อดทนสวยมาครึ่งศตวรรษแล้ว ขอพักบ้างเถอะ 555+

นั่งทำงานที่บ้าน ตอบอีเมล์ ดูหุ้น วาดรูป พร้อมๆดูผีเสื้อไปก็มีความสุขดี อาจดูเหมือนทำเล่นๆ แต่เป็นงานเลี้ยงชีพทั้งนั้น กับข้าวทุกมื้อต้องซื้อมาทำกิน

ไม่ได้แอบขี้เกียจนั่งๆนอนๆ ทำตัว slow life อะไรที่เขาฮิตๆกันเสียหน่อย แล้วจะเครียดจะหงอยได้อย่างไร

นึกๆไปก็ขำอยู่เหมือนกัน กับความจริงที่ว่า ทุกวันนี้ เราสามารถนุ่งผ้าถุงนั่งใต้ต้นไม้ ตะโกนคุยงานเห็นหน้าเห็นตา กับคนที่ยุโรป อเมริกา หรืออินเดีย ได้โดยไม่ต้องลงทุนสักบาท ไม่ต้องเสียค่าเครื่องบินก็ได้งาน แต่ต้องเสียทั้งค่าแต่งตัว ค่าจ้างคนขับรถ ค่าน้ำมัน ค่ากิน เพื่อไปคุยกับคนที่อยู่ใกล้ๆแค่ทองหล่อ หรือพร้อมพงษ์ บางทีธุระจริงๆมีแค่สี่สิบนาที แต่ต้องใช้เวลาสำหรับการออกไปคุยถึงสามชั่วโมง

ยิ่งอายุมาก สังขารเสื่อม สายตาไม่ดี
กว่าจะเขียนคิ้วสองข้างให้เท่ากันได้ ต้องเสียเวลาตั้งนาน ที่เราเห็นพวกหญิงสว. ทั้งหลาย เขียนคิ้วเขียนตาดูเลอะๆเทอะๆ ออกทีวีก็ด้วยเหตุนี้แหละ
ไม่ต่างกับความลำบากของหนอนผีเสื้อ ที่ต้องอดทนขดเป็นดักแด้อยู่ตั้งนาน เพื่อที่จะได้สวยแค่แป๊บเดียว…แล้วก็ตาย

เวลาส่วนใหญ่ในวงจรชีวิตของผีเสื้อ จะเป็นช่วงของหนอนและดักแด้ ช่วงที่มันมีปีกบินได้ ดูงดงามแสนเสรี สั้นนิดเดียวแค่ 6 วัน ก่อนตายมันจะจับคู่ผสมพันธุ์ และเลือกวางไข่เฉพาะใบไม้อ่อนๆ เพื่อให้ลูกที่เกิดมา ได้อาศัยใบไม้นั้นคุ้มแดดฝน ป้องกันอันตราย แทะกินเป็นอาหารเมื่อออกจากไข่

ที่เราเห็นผีเสื้อบินสวยๆ ชื่นชมดอกไม้ใบหญ้า ดูเหมือนสบายใจ ถ้ามองใกล้ๆ จะพบว่า การเป็นผีเสื้อก็ใช่ว่าจะง่าย

ผีเสื้อมีเวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น สำหรับการทำในสิ่งที่ตั้งใจ ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนที่มันจะจากโลกนี้ไป บางตัวอาจตายก่อนที่จะทำสำเร็จด้วยซ้ำ

เราจึงไม่ค่อยเห็นผีเสื้อเที่ยวทำตัววอกแวก บินหลงไปทำอะไรที่อยู่นอกเป้าหมาย

ดูผีเสื้อแล้วก็หวนคิดถึงสมัยเป็นสาวออฟฟิศ สิ่งที่เห็นจนชินตา คือภาพของสาวน้อยสาวใหญ่มนุษย์เงินเดือน พากันช็อปแบบสะบั้นหั่นแหลก เพื่อชิงความเป็นผู้นำแฟชั่นล้ำสมัย ครองตำแหน่งดาวเด่นประจำสำนักงาน ทั้งในช่วงเช้าระหว่างทางเดินไปออฟฟิศ ช่วงพักเที่ยงและหลังเลิกงา

แผงสินค้าแนวละลายทรัพย์กับมนุษย์เงินเดือน แทบจะขาดกันไม่ได้ เงินที่ควรจะเป็นเงินออม เงินลงทุน แปรสภาพไปเป็นขยะแฟชั่น แปรเป็นค่ากินจำนวนมหาศาล ที่ไม่รู้จะกินไปทำไมให้มันอ้วน รูดบัตรเครดิตกันเป็นที่สนุกสนาน

ทุกคนตื่นเช้าฝ่ารถติดมาทำงาน ด้วยความหวังอยากจะรวยกันทั้งนั้น แต่น่าเสียดายคนทำงานจำนวนไม่น้อย ไม่สามารถฝ่าสมรภูมิของตัวเอง ไปสู่เป้าหมายจริงๆของชีวิตได้

หลายคนหัวเราะ ทั้งที่น่าจะร้องไห้ เมื่อเงินเดือนของเดือนนี้ออกมา และหมดไปอย่างรวดเร็วกับค่าความสุขของเดือนก่อน ส่วนค่าความสุขของเดือนนี้ ค่อยว่ากันไปในเดือนถัดไป

ผีเสื้อไม่มีเงิน มันไม่ได้รับสิทธิ์ให้สร้างหนี้

ถ้าผีเสื้อใช้ชีวิตแบบนั้น ต้นทุนเดียวที่มันมีก็คือ ‘เวลา’ คงหมดไปก่อนได้สืบพันธุ์

ขัยชนะในสมรภูมิของผีเสื้อ ไม่ได้ตัดสินตรงที่ ตัวไหนจะมีปีกสวยที่สุด แต่ขึ้นอยู่กับว่า มันจะมีชีวิตรอดเพื่อทำเป้าหมายให้สำเร็จได้หรือไม่

ขึ้นชื่อว่าชีวิต ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ก็มีสมรภูมิของตัวเองที่ต้องต่อสู้ บางคนเลือกจะไปต่อสู้ศึกใหญ่ข้างนอก บางคนเลือกที่จะโรมรันกับศึกเล็กๆข้างใน

สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าชัยชนะในการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นศึกเล็กหรือใหญ

ก็คือการได้เลือกสมรภูมิที่เราพอใจ

และเมื่อเลือกแล้ว ก็แค่ทำในสิ่งที่เลือกให้ดีที่สุด

สมรภูมิที่ดิฉันกำลังต่อสู้อยู่ในตอนนี้ คือเขียนรำพึงรำพัน #เรื่องเล่าในสวนหลังบ้าน ตอนผีเสื้อนี้ให้จบ ก่อนออกไปประชุมแถวเขาดิน

ขณะที่ยังไม่รู้จะจบอย่างไร ดิฉันนั่งมองใบไม้สีเขียวอ่อนไปเรื่อยๆ ในที่สุด…จินตนาการก็เริ่มทำงาน เริ่มรู้สึกว่า ใบไม้อ่อน มันทำท่าเชิดๆ คล้ายจะทำหยิ่ง ข่มใบไม้สีเขียวแก่ ยังไงชอบกล

สงสัยมันจะคิดว่า ตัวเองสวยกว่า ก็เลยยะโสนัก

นั่นก็เพราะ มันยังไม่รู้ ว่าใบไม้อ่อน เป็นอาหารของหนอนผีเสื้อ

ในสมรภูมิความงาม ใบไม้อ่อนอาจจะเป็นผู้ชนะ
แต่ในสมรภูมิชีวิต
ใบไม้แก่ คือใบที่รอดจากการถูกกิน
และเป็นผู้ชนะตัวจริง

You may also like...